สาระน่ารู้
สาเหตุของอาการ จาม น้ำมูกไหล
พ.ค.
สาเหตุอาการการจาม, น้ำมูกไหล, หายใจไม่สะดวก และคัดจมูก เป็นอาการที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจส่วนบน และมักเกิดขึ้นร่วมกันเนื่องจากสาเหตุต่างๆ ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจถึงสาเหตุหลักๆ ของอาการเหล่านี้
- สาเหตุของการจาม
- สาเหตุของน้ำมูกไหล
- สาเหตุของการหายใจไม่สะดวก หรือคัดจมูก
- วิธีการป้องกัน และลดอาการต่างๆ
1.สาเหตุของการจาม
การจามเป็นกลไกป้องกันทางธรรมชาติของร่างกายเพื่อกำจัดสิ่งระคายเคืองออกจากจมูก เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมหรือสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเข้าสู่จมูก จะกระตุ้นให้เส้นประสาทในจมูกสั่งการให้เกิดการจาม โดยมีสาเหตุดังนี้
1.1 ภูมิแพ้ (Allergy): เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการจาม เช่น แพ้เกสรดอกไม้, ฝุ่น, ขนสัตว์ หรือเชื้อรา, ไรฝุ่น
1.2 การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ: เช่น การยืนในที่หนาวและเข้าไปในที่อุ่นสามารถกระตุ้นให้เกิดการจามได้
1.3 สารเคมีและควัน: กลิ่นควัน, ยาสูบ หรือแม้กระทั่งน้ำหอมที่มีกลิ่นแรงสามารถทำให้จามได้
2.สาเหตุของน้ำมูกไหล
น้ำมูกไหลเกิดจากการผลิตของเมือกในระบบทางเดินหายใจส่วนบนที่มากเกินไป ซึ่งอาจมีสาเหตุดังนี้:
2.1 ไวรัสหวัด (Common Cold): เชื้อไวรัสต่างๆ เช่น Rhinovirus หรือ Coronavirus เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด
2.2 การติดเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Infection): ทำให้เกิดการอักเสบในช่องจมูกและไซนัส
2.3 ภูมิแพ้: เช่นเดียวกับการจาม การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้จะทำให้ร่างกายผลิตน้ำมูกมากขี้น
3.สาเหตุของการหายใจไม่สะดวก หรือคัดจมูก
อาการหายใจไม่สะดวกมักเกิดจากการอุดตันของทางเดินหายใจส่วนบน ซึ่งอาจมีสาเหตุดังนี้:
3.1 การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ: การอักเสบและบวมของเยื่อบุทางเดินหายใจ หวัด หรือไซนัส
3.2 การอุดตันของทางเดินหายใจ: เช่นการสะสมของเมือกหรือสิ่งแปลกปลอมในจมูก
3.3 ภาวะหอบหืด (Asthma): ทำให้การหายใจยากขึ้นเนื่องจากหลอดลมตีบ
3.4 อาการภูมิแพ้ : มีสารคัดหลั่งจากร่างกายออกมา ทำให้เกิดอาการบวม
โดยการจาม น้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวก นี้ ทั้งหมดอาจมีสาเหตุมาจากการแพ้สิ่งที่เรียกว่าไรฝุ่น ซึ่งตัวไรฝุ่น หรือสารก่อภูมิแพ้ที่มาจากไรฝุ่นนี้ สามารถทำให้เกิดอาการอักเสบของเยื่อจมูก เยื่อจมูกบวม ทำให้เกิดการอุดตันหรือติดเชื้อได้ หรือบางทีก็มีน้ำมูกไหลตอนเช้าๆเหมือนแพ้อากาศ โดยไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่นนี้ มีวิธีป้องกันแบบง่ายๆ ซึ่งก็คือใช้ผ้าปูที่นอนที่สามารถกันไรฝุ่นได้ โดยผ้าปูที่นอนกันไรฝุ่นนี้จะช่วยทำหน้าที่เป็นเหมือนตาข่ายที่คอยกั้นไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ ไม่ให้ฟุ้งออกมาจากในที่นอนของเรา เมื่อร่างกายได้รับการป้องกันจากสารก่อภูมิแพ้นี้ ก็จะทำให้อาการแพ้ต่างๆลดลงได้ โดยผ้ากันไรฝุ่น ที่ดี ก็จะต้องเป็นการป้องกันไรฝุ่นด้วยการทอแน่น ไม่ใช้สารเคลือบที่เป็นอันตราย ซึ่งผ้ากันไรฝุ่นที่ผ่านการทดสอบจากห้องทดลองที่ได้มาตรฐาน เช่น ศูนย์วิจัยไรฝุ่นศิริราช และผ่านการยอมรับจากแพทย์ทั่วประเทศในการใช้งาน ก็คือผ้ากันไรฝุ่น Perfecta ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องผ้ากันไรฝุ่น และเป็นผ้าปูที่ใช้วิธีการทอแน่นในการป้องกันไรฝุ่น เนื้อผ้ามีความนุ่มสบาย และยังมีเทคโนโลยีในการช่วยลดการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียอีกด้วย โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผ้ากันไรุฝ่นทาง link นี้ค่ะ ผ้ากันไรุฝ่น
หรือสามารถเลือกดูรายการสินค้าผ้ากันไรฝุ่น เพื่อเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานค่ะ
4. วิธีการป้องกัน และลดอาการต่างๆ
นอกจากการใช้ผ้ากันไรฝุ่นแล้ว ยังสามารถทำวิธีอื่นร่วมด้วย เพื่อให้อาการภูมิแพ้ลดลงมากที่สุด ดังนี้
4.1 การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ: ช่วยลดการสะสมของสิ่งแปลกปลอม สารก่อภูมิแพ้ สิ่งสกปรกและเมือกในจมูก เพื่อลดความเสี่ยงของการแพ้
4.2 ยาแก้แพ้ (Antihistamines): ช่วยลดอาการแพ้และบรรเทาการจาม น้ำมูกไหล และคัดจมูก เมื่อมีอาการ
4.3 การใช้เครื่องเพิ่มความชื้น (Humidifier): ช่วยรักษาความชื้นในอากาศเพื่อให้การหายใจสะดวกขึ้น
4.4 การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้: เช่น การเก็บสิ่งแปลกปลอมให้ห่างไกลจากที่อยู่อาศัย
4.5 การพักผ่อน: ให้ร่างกายฟื้นตัวจากการติดเชื้อหรืออาการแพ้ ร่างกายที่แข็งแรง จะช่วยให้อาการแพ้ต่างๆเกิดขึ้นได้น้อยลง
จะเห็นได้ว่า การใช้ผ้ากันไรฝุ่นนั้น จะช่วยหยุดต้นตอของปัญหาได้ ถ้าเราสามารถลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ ไม่ไห้เข้ามาสัมผัสเรา หรือถ้าจำเป็นก็สัมผัสให้น้อยที่สุด ทำให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้น เป็นการแก้ไขที่สาเหตุของปัญหา
โดยสุรปแล้ว อาการจาม, น้ำมูกไหล, หายใจไม่สะดวก และคัดจมูกเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนและมีสาเหตุหลายอย่าง การเข้าใจสาเหตุของอาการจาม น้ำมูกไหล และการดูแลรักษาเบื้องต้นเป็นสิ่งสำคัญในการที่จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นและสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น